สถานการณ์การใช้น ้ามันเชื อเพลิง รอบ 1 เดือน ของปี 2567 (มกราคม) นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เผยภาพรวมการใช้น ้ามันเชื อเพลิงเฉลี่ย เดือนมกราคม 2567 อยู ่ที ่ 153.33 ล้านลิตร/วัน ลดลงเมื ่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 5.2 โดยการใช้น ้ามันกลุ ่มเบนซินเพิ ่มขึ น ร้อยละ 2.7 น ้ามันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ ่มขึ นร้อยละ 15.6 ขณะที ่น ้ามันเตา NGV น ้ามันกลุ ่มดีเซล และ LPG มีการใช้ลดลงร้อยละ 27.6 ร้อยละ 15.8 ร้อยละ 11.4 และร้อยละ 1.6 ตามล้าดับ นอกจากนี กรมธุรกิจพลังงานได้มี การประกาศใช้น ้ามันมาตรฐานยูโร 5 ตั งแต่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจาก ปัญหามลพิษทางอากาศและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในวงกว้าง การใช้น ้ามันกลุ่มเบนซิน เดือนมกราคม 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 32.22 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ นจากช่วงเดียวกันของ ปีก่อนร้อยละ 2.7 โดยการใช้แก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.94 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์ 91 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.98 ล้านลิตร/วัน ขณะที่แก๊สโซฮอล์ อี85 เบนซิน และแก๊สโซฮอล์ อี20 ลดลงมาอยู่ที่ 0.07 ล้านลิตร/วัน 0.44 ล้านลิตร/วัน และ 5.50 ล้านลิตร/วัน ตามล าดับ เนื่องจากปัจจัยด้านฤดูกาลประกอบกับนโยบายการปรับลดราคาน้ ามันเบนซิน ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567 เพื่อช่วยค่าครองชีพประชาชน จึงท าให้ปริมาณการใช้น้ ามันกลุ่ม เบนซินปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น การใช้น ้ามันกลุ่มดีเซล เดือนมกราคม 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 69.36 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.4 โดยน้ ามันดีเซลพื ้นฐาน น้ ามันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และน้ ามันดีเซลหมุนเร็ว บี20 ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 1.48 ล้านลิตร/วัน 0.41 ล้านลิตร/วัน และ 0.15 ล้านลิตร/วัน ตามล าดับ ขณะที่น้ ามันดีเซลหมุนเร็ว บี7 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.9 มาอยู่ที่ 67.32 ล้านลิตร/วัน แต่เมื่อพิจารณาจากช่วงเดือนที่ผ่านมาปริมาณการใช้น้ ามัน กลุ่มดีเซลมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลา การตรึงราคาน้ ามันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 เพื่อช่วยค่าครองชีพประชาชน การใช้น ้ามันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เดือนมกราคม 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 16.37 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ น จากช่วงเดียวกันของปี ก่อนร้อยละ 15.6 เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ประกอบกับรัฐบาลได้มีการประกาศใช้นโยบายฟรีวีซ่า ส าหรับนักท่องเที่ยว จีนและคาซัคสถาน รวมระยะเวลา 5 เดือน (กันยายน 2566 – กุมภาพันธ์ 2567) รวมทั้งอินเดียและไต้หวันรวมระยะเวลา 6 เดือน (พฤศจิกายน 2566 - พฤษภาคม 2567) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะช่วยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางทางอากาศยานเพิ่มมากขึ้น การใช้ LPG เดือนมกราคม 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 16.20 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 1.6 โดยเป็นการลดลง ของภาคปิโตรเคมี ร้อยละ 3.9 มาอยู่ที่ 6.02 ล้านกก./วัน ภาคครัวเรือนลดลงร้อยละ 0.85 มาอยู่ที่ 5.91 ล้านกก./วัน และ ภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 0.2 มาอยู่ที่ 1.97 ล้านกก./วัน ขณะที่การใช้ในภาคขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 มาอยู่ที่ 2.31 ล้านกก./วัน การใช้ NGV เดือนมกราคม 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 2.92 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 15.8 ทั้งนี้ ปตท. มีมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาพลังงาน ส าหรับรถแท๊กซี่ รถโดยสารสาธารณะ รถบรรทุก ขยายระยะเวลา การช่วยเหลือราคา NGV ส าหรับผู้มีบัตรสิทธิประโยชน์อยู่แล้ว และเปิดให้มีการสมัครบัตรสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม โดยสิทธิ ประโยชน์จะแตกต่างไปตามประเภทของรถ รวมทั้งช่วยเหลือราคาก๊าซ NGV ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 โดยจ าหน่ายก๊าซ NGV ที่ราคา 19.59 บาทต่อกิโลกรัมส าหรับรถทั่วไป การน้าเข้าน ้ามันเชื อเพลิง เดือนมกราคม 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,046,936 บาร์เรล/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกัน ของปีก่อนร้อยละ 3.9 คิดเป็นมูลค่าการน าเข้ารวม 99,752 ล้านบาท/เดือน โดยเป็นการน าเข้าน ้ามันดิบอยู่ที่ 985,866 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 คิดเป็นมูลค่าการน าเข้าน้ ามันดิบอยู่ที่ 93,195 ล้านบาท/เดือน ส าหรับการน าเข้า น ้ามันส้าเร็จรูป (น้ ามัน เบนซินพื้นฐาน น้ ามันดีเซลพื้นฐาน น้ ามันเตา น้ ามันอากาศยาน และ LPG) อยู่ที่ 61,069 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 47.4 คิดเป็น มูลค่าการน าเข้าน้ ามันส าเร็จรูปอยู่ที่ 6,556 ล้านบาท/เดือน การส่งออกน ้ามันส้าเร็จรูป เดือนมกราคม 2567 เป็นการส่งออกน้ ามันเบนซิน น้ ามันดีเซล น้ ามันเตา น้ ามันอากาศยาน น้ ามันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกอยู่ที่ 160,682 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ นร้อยละ 30.8 คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 16,290 ล้านบาท/เดือน